Texas Chainsaw Massacre สิงหาสับ (2022)

หนังประเทศ : สหรัฐอเมริกา
เรื่องย่อ
Texas Chainsaw Massacre (2022) เป็นภาคต่อโดยตรงจากต้นฉบับในปี 1974 ที่ถือเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญคลาสสิกที่สุดตลอดกาล ผลงานของผู้กำกับ David Blue Garcia และอำนวยการสร้างโดย Fede Álvarez (จาก Don’t Breathe และ Evil Dead) หนังภาคนี้พาผู้ชมกลับไปยังเมืองเล็ก ๆ ในรัฐเท็กซัส ที่ฝันร้ายจาก “ฆาตกรหน้าหนังมนุษย์” กลับมาหลอกหลอนอีกครั้งหลังผ่านไปกว่า 50 ปี
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อกลุ่มวัยรุ่นสี่คน — เมโลดี้ (Sarah Yarkin), เลล่า (Elsie Fisher), ดานเต้ (Jacob Lattimore) และรูธ (Nell Hudson) — เดินทางมายังเมืองร้างชื่อ “ฮาร์โลว์” เพื่อเปิดโครงการปรับปรุงให้เป็นเมืองแห่งศิลปะและธุรกิจใหม่ แต่พวกเขากลับบังเอิญปลุก “เลเธอร์เฟซ” (Leatherface) ฆาตกรในตำนานให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลังจากซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ มาหลายสิบปี
เมื่อความตายเริ่มต้นขึ้น เมืองทั้งเมืองกลายเป็นสนามล่าอันบ้าคลั่ง กรงเล็บของเลเธอร์เฟซและเลื่อยยนต์คู่ใจกลับมาคร่าชีวิตเหยื่ออีกครั้ง ท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์ที่ดังก้องและเลือดที่สาดกระเซ็น — จนแทบไม่มีใครรอด!
บทความรีวิว
ภาคปี 2022 ของ Texas Chainsaw Massacre เป็นการพยายามคืนชีพแฟรนไชส์สยองขวัญในยุคใหม่ โดยยังคงเคารพรากเดิมของหนังปี 1974 แต่เพิ่มความรุนแรงและความทันสมัยเข้ามาเต็มรูปแบบ หนังใช้แนวทาง “ภาคต่อแท้จริง” (legacy sequel) ที่ลบทุกภาคก่อนหน้าออก และดำเนินต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรกโดยตรง
สิ่งที่น่าสนใจคือ การนำเสนอ “ยุคใหม่ vs ความสยองเก่า” วัยรุ่นยุคโซเชียลที่เชื่อว่าทุกอย่างถ่ายคลิปได้ ถูกจับโยนเข้าไปในโลกแห่งความป่าเถื่อนที่ไม่มีสัญญาณมือถือ ไม่มีการช่วยเหลือ และไม่มีใครเชื่อในสิ่งเหนือเหตุผลอีกต่อไป หนังสะท้อนถึงการปะทะกันของสองยุค — โลกแห่งความสะดวกสบายปะทะความโหดร้ายของธรรมชาติเดิม
การกำกับของ David Blue Garcia เน้นความดิบ โหด และไม่ปราณีใคร ฉากไล่ฆ่ามีความโหดแบบ “เลือดสาดเต็มพิกัด” และถ่ายทำด้วยความสมจริงที่ทำให้ผู้ชมแทบต้องหลับตา แต่ในขณะเดียวกันหนังก็ยังมีสไตล์และมุมภาพที่ทันสมัย โดยเฉพาะฉากบนรถบัสที่ Leatherface ไล่ฆ่ากลุ่มวัยรุ่น เป็นฉากที่ทั้งน่าสะพรึงและเสียดสีสังคมออนไลน์ได้อย่างเจ็บแสบ
สปอยล์เต็ม

หลังจากกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้าไปในบ้านหลังเก่าของหญิงชราที่อาศัยอยู่กับเลเธอร์เฟซ พวกเขาทำให้หญิงชราเสียชีวิตด้วยความตกใจ นั่นคือจุดเริ่มต้นของหายนะทั้งหมด เมื่อ Leatherface สูญเสีย “แม่” ที่เลี้ยงดูเขามา เขาจึงกลับมาคลั่งอีกครั้งและออกอาละวาดฆ่าทุกคนที่ขวางหน้า
ฉากไล่ฆ่าในรถบัสเป็นจุดเด่นของเรื่อง วัยรุ่นพยายามถ่ายคลิปไลฟ์สดขณะ Leatherface สับทุกคนอย่างเลือดเย็น เสียงเลื่อยยนต์ก้องสะท้อนพร้อมเลือดที่สาดเต็มจอ เป็นฉากที่ทั้งสะใจและน่าสยองจนกลายเป็นไวรัลทันทีหลังฉาย
ท้ายที่สุด เมโลดี้พยายามหนีไปพร้อมน้องสาวเลล่า แต่ไม่พ้น Leatherface ที่ตามทันและจัดการตัดหัวเธออย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าต่อตาเลล่า ก่อนที่หนังจะปิดฉากด้วยภาพ Leatherfaceยกเลื่อยขึ้นเต้นกลางถนนเหมือนในภาคต้นฉบับ พร้อมทิ้งความรู้สึกเยือกเย็นให้คนดู
บทวิเคราะห์
หนังภาคนี้ไม่ได้พยายามซับซ้อน แต่เลือกเน้น “ความโหดและความสะใจ” เหมือนเป็นการกลับคืนสู่รากดั้งเดิมของหนังสยองยุค 70s ในขณะที่แฝงการเสียดสีสังคมยุคใหม่ โดยเฉพาะพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีแทนสามัญสำนึก เช่น ฉากที่กลุ่มวัยรุ่นเลือกถ่ายคลิปแทนการหนีตาย
Leatherface ในเวอร์ชันนี้ถูกถ่ายทอดให้เป็นสัญลักษณ์ของ “อดีตที่ไม่หายไป” ความรุนแรงที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวสังคม และความบ้าคลั่งที่พร้อมปะทุเมื่อถูกยั่วยุ มันไม่ใช่แค่ฆาตกร แต่คือภาพแทนของความกลัวที่ยังคงหลอกหลอนอเมริกาแม้เวลาผ่านไปครึ่งศตวรรษ
เทคนิคการสร้างและงานภาพ
หนังใช้โทนสีซีดและกล้องแฮนด์เฮลด์เพื่อสร้างความสมจริงและอึดอัด งานภาพของ Ricardo Diaz เน้นความมืดและแสงสีแดงที่กระตุ้นอารมณ์ความกลัว ส่วนเสียงของเลื่อยยนต์ถูกปรับให้ดังก้องและหลอนเหมือนเสียงปีศาจในความมืด ดนตรีของ Colin Stetson (ผู้ทำเพลงให้ Hereditary) เสริมบรรยากาศได้อย่างหลอนและหวิวสุดขั้ว
ด้านเทคนิคพิเศษใช้เลือดปลอมและอวัยวะจำลองแบบ practical effect ทำให้ฉากสังหารดูสมจริงและน่ากลัวแบบไม่พึ่ง CGI มากนัก เป็นการกลับสู่ความสยองแนว “ของจริง” ที่แฟนหนังยุคเก่าชื่นชอบ
บทวิจารณ์
Texas Chainsaw Massacre (2022) ได้รับเสียงตอบรับที่แตกเป็นสองฝั่ง — ฝั่งหนึ่งชื่นชมในความโหดและความกล้าที่ไม่กลัวจะ “สับ” ทุกอย่างให้เละ ขณะที่อีกฝั่งมองว่าหนังขาดความลึกในเนื้อเรื่องและพัฒนาการของตัวละคร แต่สิ่งที่แทบทุกคนยอมรับคือ “ความมันส์สยองแบบเลือดท่วมจอ” ที่ทำให้แฟนหนังสยองสายโหดพอใจเต็มที่
นี่คือการคืนชีพของ Leatherface ที่ไม่พยายามซับซ้อน แต่กลับไปสู่จุดเริ่มต้น — เสียงเลื่อยยนต์ ความคลั่ง และความสยองที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ตัวอย่างภาพยนตร์
